เห็ดฟาง |
เห็ดฟาง คนไทยรู้จักบริโภคอาหารจากเห็ดฟางมานานแล้ว เพราะมีรสดีมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าพืชผักหลายชนิด
และไม่มีการใช้สารฆ่าแมลง การเพาะก็ทำได้ง่าย วัสดุต่าง ๆ ที่ใช้เพาะก็หาได้ง่าย
ส่วนใหญ่เป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และการเพาะเห็ดฟางก็สามารถ ทำได้ตลอดทั้งปี
จึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง รวมทั้งการคิดค้นดัดแปลงวัสดุเพาะ วิธีเพาะ และอาหารเสริมเพื่อเพิ่มผลผลิตได้มาก
ลักษณะของการเพาะเห็ดฟางในปัจจุบัน มีอยู่หลายวิธี คือ การเพาะเห็ดฟางแบบกองสูง, การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย,
การเพาะเห็ดฟางจากเปลือกฝักถั่ว, การเพาะเห็ดฟางแบบ
โรงเรือน หรืออุตสาหกรรม เป็นต้น
การเพาะเห็ดฟางแบบกองสูงนั้น
ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมทำกันนักเพราะใช้เวลาการเพาะนาน อีกทั้งต้องเสียเวลา
ในการดูแลรักษานานอีกด้วย
ส่วนวิธีการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยนั้น
กำลังเป็นที่นิยมมากเพราะมีวิธีการทำที่ง่าย ทั้งวัสดุที่ใช้เพาะก็หาได้ง่าย
และผลผลิตที่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
ในที่นี้จะกล่าวรายละเอียดเฉพาะการเพาะแบบกองเตี้ยเท่านั้น
ทางผู้จัดทำจะนำเสนอเฉพาะ การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย
และ การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า เท่านั้น
ลักษณะของการเพาะเห็ดฟางในปัจจุบัน มีอยู่หลายวิธี คือ การเพาะเห็ดฟางแบบกองสูง, การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย, การเพาะเห็ดฟางจากเปลือกฝักถั่ว, การเพาะเห็ดฟางแบบ โรงเรือน หรืออุตสาหกรรม เป็นต้น
การเพาะเห็ดฟางแบบกองสูงนั้น ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมทำกันนักเพราะใช้เวลาการเพาะนาน อีกทั้งต้องเสียเวลา ในการดูแลรักษานานอีกด้วย
ส่วนวิธีการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยนั้น กำลังเป็นที่นิยมมากเพราะมีวิธีการทำที่ง่าย ทั้งวัสดุที่ใช้เพาะก็หาได้ง่าย และผลผลิตที่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ในที่นี้จะกล่าวรายละเอียดเฉพาะการเพาะแบบกองเตี้ยเท่านั้น
ทางผู้จัดทำจะนำเสนอเฉพาะ การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย และ การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า เท่านั้น
คุณค่าทางอาหาร
|
เห็ด ฟางสด
|
เห็ดฟางแห้ง
|
โปรตีน
|
3.40%
|
49.04%
|
ไขมัน
|
1.80%
|
20.63%
|
คาร์โบไฮเดรท
|
3.90%
|
17.03%
|
เถ้า
|
-
|
13.30%
|
พลังงาน
|
44 แคลอรี่
|
4170 แคลอรี่
|
แคลเซียม
|
8 มิลลิกรัม
|
2.35% ของเถ้า
|
เหล็ก
|
1.1 มิลลิกรัม
|
0.99% ของเถ้า
|
ฟอสฟอรัส
|
-
|
30.14% ของเถ้า
|
สิ่งจำเป็นในการเพาะเห็ดฟาง
วัตถุดิบที่ใช้ในการเพาะ ใช้ฟางตากแห้งสนิทซึ่งเก็บไว้โดยไม่เปียกชื้นหรือขึ้นรามาก่อน
ใช้ได้ทั้งฟางข้าวเหนียว ฟางข้าวจ้าว ฟางข้าว ที่นวดเอาเมล็ดออกแล้ว
และส่วนของตอซังเกี่ยวหรือถอนก็ใช้ได้ดีถ้าเปรียบเทียบวัสดุที่ใช้ในการ เพาะต่าง ๆ
แล้ว ตอซังจะ ดีกว่าปลายฟางข้าวนวดและวัสดุอื่น ๆ มาก
เนื่องจากตอซังมีอาหารมากกว่าและอุ้มน้ำได้ดี กว่าปลายฟาง
อาหารเสริม การใส่อาหารเสริมเป็นส่วนช่วยให้เส้นใยของเห็ดฟางเจริญได้ดี
และทำให้ได้ดอกเห็ดมากกว่าที่ ไม่ได้ใส่ถึงประมาณ เท่าตัว
อาหารเสริมที่นิยมใช้อยู่เป็นประจำได้แก่ ละอองข้าว ปุ๋ยมูลสัตว์หรือปุ๋ยคอกแห้ง
ไส้นุ่น ไส้ฝ้าย ผักตบชวาตากแห้งแล้วสับ ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ จอกแห้ง
และเศษพืชชิ้นเล็ก ๆ ที่นิ่มและอุ้มน้ำได้ดี เหล่านี้ก็มีส่วนใช้เป็น
อาหารเสริมได้เช่นกัน
เชื้อเห็ดฟาง ที่จะใช้เพาะ
การเลือกซื้อเชื้อเห็ดฟางเพื่อให้ได้เชื้อเห็ดที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับราคามี
หลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบดังนี้ คือ
- เมื่อจับดูที่ถุงเชื้อเห็ด
ควรจะต้องมีลักษณะเป็นก้อนแน่นมีเส้นใยของเชื้อเห็ดเดินเต็มก้อนแล้ว
- ไม่มีเชื้อราชนิดอื่น
ๆ หรือเป็นพวกแมลง หนอน หรือตัวไร เหล่านี้เจือปน และไม่ควรจะมีน้ำอยู่ก้นถุง
ซึ่งแสดงว่าชื้นเกินไป ความงอกจะไม่ดี
- ไม่มีดอกเห็ดอยู่ในถุงเชื้อเห็ดนั้น
เพราะนั่นหมายความว่าเชื้อเริ่มแก่เกินไปแล้ว
- ควรผลิตจากปุ๋ยหมักของเปลือกเมล็ดบัวผสมกับขี้ม้า
หรือไส้นุ่นกับขี้ม้า
- เส้นใยไม่ฟูจัดหรือละเอียดเล็กเป็นฝอยจนผิดธรรมดาลักษณะของเส้นใยควรเป็นสีขาวนวล
เจริญคลุมทั่วทั้งก้อนเชื้อเห็ดนั้น
- ต้องมีกลิ่นหอมของเห็ดฟางด้วย
จึงจะเป็นก้อนเชื้อเห็ดฟางที่ดี
- เชื้อเห็ดฟางที่ซื้อต้องไม่ถูกแดด
หรือรอการขายไว้นานจนเกินไป
- เชื้อเห็ดฟางที่ซื้อมานั้น
ควรจะทำการเพาะภายใน 7 วัน
- อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาใด
ๆ ของผู้ขาย ควรสอบถามจากผู้ที่เคยทดลองเพาะมาก่อนจะดีกว่า นอกจากนี้ควร
มีการตรวจสอบ เชื้อเห็ดฟางจากหลายยี่ห้อ
เชื้อเห็ดฟางยี่ห้อใดให้ผลผลิตสูงก็ควรเลือกใช้ยี่ห้อนั้นมาเพาะจะดีกว่า
- ราคาของเชื้อเห็ดฟางไม่ควรจะแพงจนเกินไป
ควรสืบราคาจากเชื้อเห็ดหลาย ๆ ยี่ห้อ เพื่อเปรียบเทียบดูด้วย
สถานที่เพาะเห็ด เนื่องจากการเพาะเห็ดฟางเป็นการเพาะบนดิน
ดังนั้นเราต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมแปลงเพาะนั้นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะต้องเป็นบริเวณที่ไม่มียาฆ่าแมลงหรือยากันเชื้อรา น้ำไม่ท่วมขัง
มีการระบายน้ำได้ดีและต้องเป็นที่ไม่เคยใช้เพาะเห็ดฟาง มาก่อน
ถ้าเคยเพาะเห็ดฟางมาก่อนก็ควรจะทำความสะอาดที่บริเวณนั้น
โดยการขุดผลึกดินตากแดดจัด ๆ ไว้สัก 1 อาทิตย์เพื่อฆ่า
เชื้อโรค ต่าง ๆ บนดินที่จะเป็นพาหะของโรคและแมลงต่อเชื้อเห็ดที่เราจะเพาะในที่ดินนั้นได้ดีขึ้น
สรุปแล้วที่กองเพาะเห็ดควรเป็นสถานที่ที่โล่งแจ้ง และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ
สภาพดินบริเวณนั้นจะต้องไม่เค็มเพราะความเค็ม
ของดินจะทำให้เส้นใยเห็ดไม่รวมตัวกันเป็นดอกเห็ดได้
มันฝรั่ง (Potato) | 200 กรัม (100 กรัม เท่ากับ 1 ขีด) |
น้ำตาลเด็กซ์โตรส (Dextrose) | 20 กรัม |
วุ้น (Agar) | 15 กรัม |
น้ำ (น้ำสะอาด) | 1 ลิตร |
การเก็บเห็ดฟาง
ข้อดีของการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย
1. การเพาะกองเตี้ยสามารถใช้วัสดุเพาะได้มาก เช่น ตอซัง กองฟาง ผักตบชวา ต้นกล้วย ฝักถั่วลิสง ไส้นุ่น เปลือกถั่วเขียว ฯลฯ
2. ใช้แรงงานน้อย
3. วิธีการเพาะง่าย สะดวกและดูแลรักษาง่าย
4. ไม่จำเป็นต้องใช้เชื้อเห็ดฟางมาก แต่ได้ผลผลิตคุ้มค่า
5. ระยะเวลาในการผลิตสั้นและสามารถกำหนดวันที่ให้ผลผลิตได้แน่นอน
6. สามารถเพาะในเนื้อที่ที่จำกัดได้
ข้อเสีย ของการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย
1. ใช้อุปกรณ์ในการเพาะเห็ด ค่อนข้างมาก
2. ต้องใช้อาหารเสริม
3. เพาะในฤดูหนาวมักมีปัญหาเรื่อความร้อนไม่พอ
4. ผลผลิตจะออกมามากครั้งเดียว โดยเก็บติดต่อกัน 2-3 วันก็หมด
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
1. ในการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยนั้น หากมีการเพาะหลาย ๆ กองเรียงกันแล้ว จะสามารถใช้ประโยชน์จากเนื้อที่ระหว่างกองแต่ละกองได้อีกด้วย เนื่องจากขณะรดน้ำก็จะมีธาตุอาหาร อาหารเสริม เส้นใยเห็ดที่ถูกน้ำชะไหลลงไปรวมอยู่บริเวณพื้นที่ระหว่างกอง จึง ทำให้บริเวณนั้นมีอาหารครบถ้วนต่อการเกิดดอกเห็ด และยิ่งถ้าให้ ความเอาใจใส่ดูแลอย่างดี หมั่นตรวจดูความชื้น อุณหภูมิ ให้เหมาะสม ต่อการเกิดดอกด้วยแล้ว พื้นที่ระหว่างกองนั้นก็จะให้ดอกเห็ดได้ อีกด้วย
2. ฟางที่จะใช้สำหรับการเพาะนั้นจะใช้ตอซัง หรือจะใช้ฟางที่ ได้จากเครื่องนวดข้าวก็ได้
3. หลังจากเก็บดอกเห็ดหมดแล้ว ควรเอากองเห็ดหลาย ๆ กอง มาสุมรวมกันเป็นกองใหม่ให้กว้างประมาณ80 ซม. ทำแบบการเพาะ เห็ดกองสูง แล้วรดน้ำพอชุ่มคลุมฟางได้สัก 6-8 วัน ก็จะเกิดดอกเห็ด ได้อีกมากพอสมควรเก็บได้ประมาณ10-15 วันจึงจะหมด วัสดุที่ใช้นี้ หลังจากเพาะเห็ดฟางแล้วสามารถนำไปเพาะเห็ดอย่างอื่นได้อีกด้วยโดยแทบไม่ต้องผสมอาหารเสริมอื่น ๆ ลงไปอีกเลย หรือจะใช้เป็น ปุ๋ยหมักสำหรับต้นไม้ก็ได้ มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับปุ๋ยอินทรีย์ที่ กทม.ขายอยู่นั้นมาก
4. เมื่อเก็บดอกเห็ดหมดแล้ว นำฟางจากกองเห็ดเก่านี้ไปหมักเป็นปุ๋ยหมักใช้กับพืชอื่น ๆ ต่อไป หรือนำฟางที่ได้จากการเพาะเห็ด ไปเพาะเห็ดนางรม เป๋าฮื้อ ก็ได้
5. การขุดดินตากแดด 1 สัปดาห์ ย่อยให้ดินร่วนละเอียด จะทำให้ผลผลิตเห็ดได้มากกว่าเดิมอีก 10-20%เพราะเห็ดเกิดบนดิน รอบ ๆ ฟางได้
6.การเปลี่ยนวิธีคลุมกองเห็ดตั้งแต่วันที่ 4 นับจากการเพาะ เป็นต้นไป ให้เป็นแบบหลังคาประทุนเรือจะทำให้ได้เห็ดเพิ่มขึ้น
วัสดุและอุปกรณ์
1. ตะกร้าพลาสติก (ตะกร้าใส่ผลไม้) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ 18 นิ้ว สูงประมาณ 11 นิ้ว มีตาห่างประมาณ 1 นิ้ว มี
จำนวนช่องเป็นแถวจากล่างขึ้นบน 7 ช่อง ก้นตะกร้าไม่ทึบช่วย
ให้ระบายน้ำได้ดี
1. ตะกร้าพลาสติก (ตะกร้าใส่ผลไม้) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ 18 นิ้ว สูงประมาณ 11 นิ้ว มีตาห่างประมาณ 1 นิ้ว มี
จำนวนช่องเป็นแถวจากล่างขึ้นบน 7 ช่อง ก้นตะกร้าไม่ทึบช่วย
ให้ระบายน้ำได้ดี
2. วัสดุเพาะ ที่นิยมได้แก่ ฟางข้าว, เปลือกถั่ว, ชานอ้อย
เป็นต้น
เป็นต้น
3. อาหารเสริม เป็นวัสดุที่ช่วยให้เชื้อเห็ดฟางช่วงแรกที่ใส่ลง
วัสดุเพาะเจริญได้ดีก่อนที่ เชื้อเห็ดฟางจะเจริญในวัสดุเพาะ
อาหารเสริมต้องเป็นวัสดุที่ย่อยได้ง่าย เช่น
วัสดุเพาะเจริญได้ดีก่อนที่ เชื้อเห็ดฟางจะเจริญในวัสดุเพาะ
อาหารเสริมต้องเป็นวัสดุที่ย่อยได้ง่าย เช่น
3.1 ผักตบชวา หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นเฉียงแบบปลาฉลามขนาด
1-2 เซนติเมตร ใช้ได้ ทั้งต้น ใบ ราก จะใช้ผักตบชวาแห้งก็ได้
3.2 ไส้นุ่น ก่อนนำมาใช้ชุบน้ำพอหมาด
3.3 ต้นกล้วย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นอกจากนี้อาจจะใช้แป้งสาลีหรือ
รำละเอียดอย่างใดอย่างหนึ่งนำมาคลุกเชื้อเห็ดฟาง ก่อนก็ได้
1-2 เซนติเมตร ใช้ได้ ทั้งต้น ใบ ราก จะใช้ผักตบชวาแห้งก็ได้
3.2 ไส้นุ่น ก่อนนำมาใช้ชุบน้ำพอหมาด
3.3 ต้นกล้วย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นอกจากนี้อาจจะใช้แป้งสาลีหรือ
รำละเอียดอย่างใดอย่างหนึ่งนำมาคลุกเชื้อเห็ดฟาง ก่อนก็ได้
4. เชื้อเห็ดฟางที่ดี ถ้าเป็นแบบหัวเชื้อถุง 1 ถุง เพาะได้ 3
ตะกร้า หรือ เชื้อถุงเล็ก เพาะได้ 1 ตะกร้า
ตะกร้า หรือ เชื้อถุงเล็ก เพาะได้ 1 ตะกร้า
5. พลาสติกคลุมวัสดุเพาะขณะเพาะเห็ดฟางในตะกร้า จะใช้
พลาสติกใสหรือสีก็ได้ ขนาด 4x4 เมตร หรือจะใช้ถุงพลาสติก
เย็บติดต่อกัน เป็นผืนก็ได้หรือใช้พลาสติกใสขนาดกว้าง 2x4
เมตรก็ได้
พลาสติกใสหรือสีก็ได้ ขนาด 4x4 เมตร หรือจะใช้ถุงพลาสติก
เย็บติดต่อกัน เป็นผืนก็ได้หรือใช้พลาสติกใสขนาดกว้าง 2x4
เมตรก็ได้
6. วัสดุ+อุปกรณ์อื่นๆ เช่น บัวรดน้ำชนิดฝอยละเอียด, ไม้ทุบ
ก้อนเชื้อเห็ด, เกรียงไม้(สำหรับอัดวัสดุเพาะเห็ด)
ก้อนเชื้อเห็ด, เกรียงไม้(สำหรับอัดวัสดุเพาะเห็ด)
7. โครงไม้ไผ่หรือสุ่มไก่ สำหรับครอบตะกร้าเพาะเห็ดฟาง
การเตรียมวัสดุ+อุปกรณ์ในการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า
1.การเตรียมพื้นที่เพาะเห็ด
การเตรียมวัสดุ+อุปกรณ์ในการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า
1.การเตรียมพื้นที่เพาะเห็ด
1.1 ใต้ร่มไม้ หรือใต้ถุนบ้านก็ได้
1.2 ปรับพื้นที่ทำความสะอาด
1.3 กำจัดมด ปลวก ให้เรียบร้อย โดยโรยปูนขาวให้ทั่วก่อน
เพาะ 2-3 วัน รดน้ำพอให้พื้นที่ชุ่มชื้นพอสมควร
1.2 ปรับพื้นที่ทำความสะอาด
1.3 กำจัดมด ปลวก ให้เรียบร้อย โดยโรยปูนขาวให้ทั่วก่อน
เพาะ 2-3 วัน รดน้ำพอให้พื้นที่ชุ่มชื้นพอสมควร
2. การเตรียมวัสดุเพาะ ฟางข้าวหรือเปลือกถั่วเขียว ชานอ้อย
อย่างใดอย่างหนึ่ง นำมาแช่น้ำก่อนเพาะ 1 คืน จากนั้นนำขึ้น
จากน้ำ พร้อมที่จะนำไปเพาะได้
อย่างใดอย่างหนึ่ง นำมาแช่น้ำก่อนเพาะ 1 คืน จากนั้นนำขึ้น
จากน้ำ พร้อมที่จะนำไปเพาะได้
3.การเตรียมอาหารเสริม นิยมใช้ผักตบชวาสด เนื่องจากได้ผล
ดีที่สุด นำมาหั่นยาว ½ เซนติเมตร หั่นเฉียงถ้าใช้ไส้นุ่น
ต้องแช่น้ำประมาณ 15 นาที บางคนใช้ขี้ไก่แห้งผสมดิน
อัตราส่วน 1:3 ควรเคล้าให้เข้ากันดี สามารถนำไปใช้ได้เลย
ดีที่สุด นำมาหั่นยาว ½ เซนติเมตร หั่นเฉียงถ้าใช้ไส้นุ่น
ต้องแช่น้ำประมาณ 15 นาที บางคนใช้ขี้ไก่แห้งผสมดิน
อัตราส่วน 1:3 ควรเคล้าให้เข้ากันดี สามารถนำไปใช้ได้เลย
4. น้ำที่ใช้เพาะเห็ดฟาง ควรเป็นน้ำที่สะอาด จาก บ่อ หนอง
คลอง หรือน้ำบาดาล ส่วนน้ำประปาที่ผสมคลอรีนใช้ไม่ได้
คลอง หรือน้ำบาดาล ส่วนน้ำประปาที่ผสมคลอรีนใช้ไม่ได้
5. ตะกร้าพลาสติก ถ้าเป็นตะกร้าใหม่ใช้ได้เลย แต่ถ้าเป็น
ตะกร้าเก่า ต้องทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ตากแดดไว้สักครึ่งวัน
ตะกร้าเก่า ต้องทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ตากแดดไว้สักครึ่งวัน
6. การเตรียมเชื้อเห็ดฟาง เชื้อเห็ดฟางขนาด 1 ปอนด์ ใช้
อัตราส่วน 1 ถุง ต่อ 3 ตะกร้า
ขั้นตอนการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า
ขั้นตอนที่ 1 นำวัสดุที่เตรียมไว้แล้ว ใส่ลงในตะกร้าสูงจาก
ตะกร้าประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือสูง 2-3 นิ้ว กรณีถ้าเป็นขี้เลื่อยใช้
เกรียงไม้กดขี้เลื่อยให้พอแน่นและให้ชิดขอบตะกร้า ให้มาก
ที่สุด
อัตราส่วน 1 ถุง ต่อ 3 ตะกร้า
ขั้นตอนการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า
ขั้นตอนที่ 1 นำวัสดุที่เตรียมไว้แล้ว ใส่ลงในตะกร้าสูงจาก
ตะกร้าประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือสูง 2-3 นิ้ว กรณีถ้าเป็นขี้เลื่อยใช้
เกรียงไม้กดขี้เลื่อยให้พอแน่นและให้ชิดขอบตะกร้า ให้มาก
ที่สุด
ขั้นตอนที่ 2 โรยอาหารเสริมที่เตรียมไว้ประมาณ 1 ลิตร หรือ 1
ชั้น บนขี้เลื่อยชิดข้างขอบตะกร้าประมาณ 1 ฝ่ามือ โดยรวม
อย่าโรยอาหารเสริมหนาเกินไปเพระจะเกิดเน่าเสียได้
ชั้น บนขี้เลื่อยชิดข้างขอบตะกร้าประมาณ 1 ฝ่ามือ โดยรวม
อย่าโรยอาหารเสริมหนาเกินไปเพระจะเกิดเน่าเสียได้
ขั้นตอนที่ 3 นำเชื้อเห็ดฟางออกจากถุง นำมาแยกออกเป็นชิ้นๆ
นำไปคลุกกับแป้งสาลีพอติดผิวนอกของเชื้อเห็ด แป้งสาลีจะ
เป็นอาหารเบื้องต้นที่ช่วยกระตุ้นให้เชื้อเห็ดเจริญดีในระยะแรกๆ
และแบ่งเชื้อเห็ดออกเป็น 3 ส่วน เท่าๆกัน นำส่วนที่ 1 โรยบน
อาหารเสริมโดยรอบ
นำไปคลุกกับแป้งสาลีพอติดผิวนอกของเชื้อเห็ด แป้งสาลีจะ
เป็นอาหารเบื้องต้นที่ช่วยกระตุ้นให้เชื้อเห็ดเจริญดีในระยะแรกๆ
และแบ่งเชื้อเห็ดออกเป็น 3 ส่วน เท่าๆกัน นำส่วนที่ 1 โรยบน
อาหารเสริมโดยรอบ
ขั้นตอนที่ 4 นำวัสดุเพาะชั้นที่ 2 ทำเหมือนชั้นที่ 1
ขั้นตอนที่ 5 ทำเหมือนขั้นที่ 1, 2 ชั้นที่ 3 จะต้องโรยอาหาร
เสริม เต็มผิวด้านบนหนาประมาณ 1 นิ้ว แล้วโรยเชื้อเห็ดฟาง
โดยรอบ
เสริม เต็มผิวด้านบนหนาประมาณ 1 นิ้ว แล้วโรยเชื้อเห็ดฟาง
โดยรอบ
ขั้นตอนที่ 6 นำน้ำประมาณ 2 ลิตร มารดด้านบนวัสดุให้ชุ่ม
เสร็จแล้วนำตะกร้านี้ไปวางไว้บนพื้นที่ในโรงเรือนที่เตรียมไว้
เสร็จแล้วนำตะกร้านี้ไปวางไว้บนพื้นที่ในโรงเรือนที่เตรียมไว้
ขั้นตอนที่ 7 นำตะกร้ามาเรียงกัน 4-5 ใบเสร็จแล้ว จะใช้สุ่มไก่
ครอบคลุมไว้
ครอบคลุมไว้
ขั้นตอนที่ 8 นำผ้าพลาสติกมาคลุมสุ่มไก่ด้านล่างควรหาอิฐ
หรือดินทับโดยรอบ
หรือดินทับโดยรอบ
ขั้นตอนที่ 9 การดูููแล ในช่วง 1-4 วันแรก (ในฤดูร้อนหรือฤดูฝน)
ส่วนในฤดูหนาวช่วง 1-8 วัน
ส่วนในฤดูหนาวช่วง 1-8 วัน
ต้องควบคุมอุณหภูมิในสุ่มไก่ให้ได้ระดับ 37-40 องศา
เซลเซียส
เซลเซียส
* ถ้าหากอุณหภูมิสูงเกินไป ให้เปิดช่องลมระบายอากาศด้าน
บน หรือรดน้ำรอบสุ่มไก่เพื่อลดอุณหภูมิลงก็ได้
บน หรือรดน้ำรอบสุ่มไก่เพื่อลดอุณหภูมิลงก็ได้
ขั้นตอนที่ 10 เมื่อถึงวันที่ 4 (ฤดูร้อนหรือฝน) ให้เปิดพาสติก
คลุมอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้มีอาการถ่ายเทอากาศ เพื่อ
ให้เส้นใยเห็ดฟางสร้างจุดกำเนิดดอกปกติรดน้ำเพียงเล็กน้อย
ถ้าวัสดุเพาะ แห้งเกินไป การรดน้ำจะเป็นการตัดเส้นใยเชื้อเห็ด
ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างจุดกำเนิดดอกได้ด้วย
คลุมอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้มีอาการถ่ายเทอากาศ เพื่อ
ให้เส้นใยเห็ดฟางสร้างจุดกำเนิดดอกปกติรดน้ำเพียงเล็กน้อย
ถ้าวัสดุเพาะ แห้งเกินไป การรดน้ำจะเป็นการตัดเส้นใยเชื้อเห็ด
ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างจุดกำเนิดดอกได้ด้วย
ขั้นตอนที่ 11 ระหว่างวันที่ 5-8 ต้องควบคุมอุณหภูมิในสุ่มไก่
หรือกระโจมไม้ให้อยู่ระหว่าง 28-32 องศาเซลเซียส และเมื่อ
เห็ดเป็นดอกเล็กๆ จำนวนมาก ห้ามเปิดพลาสติกบ่อยครั้งเพราะ
จะทำให้ดอกเห็ดฝ่อได้
หรือกระโจมไม้ให้อยู่ระหว่าง 28-32 องศาเซลเซียส และเมื่อ
เห็ดเป็นดอกเล็กๆ จำนวนมาก ห้ามเปิดพลาสติกบ่อยครั้งเพราะ
จะทำให้ดอกเห็ดฝ่อได้
ขั้นตอนที่ 12 การเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณวันที่ 8-9 ในฤดู
ร้อนหรือวันที่ 12-15 ในฤดูหนาว
ร้อนหรือวันที่ 12-15 ในฤดูหนาว
ขั้นตอนการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า แบบคลิปวิดีโอ
การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า part 1
การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า part 2
การเก็บเห็ดฟาง
เล็กน้อย ดึงขึ้นมาพยายามอย่าให้เส้นใยกระทบกระเทือน
รูปแบบกระโจมที่ใช้เพาะเห็ดฟางในตะกร้า
กระโจมแบบเต็นท์ลูกเสือ
กระโจมแบบสุ่มไก่
อาชีพทำนาเพียงอย่างเดียวรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของ
สมาชิกในครอบครัว เหตุผลพื้นๆนี้เป็นแรงผลักให้ "ชัยยา มงคล
ศิลป์" วัย 43 ปี เกษตรกรชาว ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี
ดิ้นรนหาอาชีพเสริม และการเพียรหาความรู้อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ
"เห็ดฟาง" พร้อมลงมือทำจริงด้วยแบ่งพื้นที่นา 2 ไร่ สร้างโรงเรือน
เพาะจำหน่าย ทำให้วันนี้เขายืนด้วยลำแข้งได้อย่างมั่นคง เพราะ
รายได้ที่เข้ามาถึงเดือนละ 3-4 หมื่นบาท
"ชัยยา" เล่าถึงที่มาก่อนเพาะเห็ดฟางขายว่า ยึดอาชีพทำนาบน
พื้นที่ 6 ไร่ แต่พอสิ้นฤดูเก็บเกี่ยวไม่มีอะไรทำก็ตระเวนออกทำงาน
รับจ้างทั่วไป แต่ระยะหลังผลผลิตจากนาข้าวมีปัญหา ราคาตกต่ำ
อีกทั้งต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หลายครั้งขาดทุน จึงทำให้คิดหา
อาชีพเสริม กระทั่ง อบต.มาบโป่ง จัดประกวดความสำเร็จในการ
ประกอบอาชีพของแต่ละหมู่บ้าน เขาได้ไปร่วมงานด้วย
และสนใจอาชีพเพาะเห็ดฟาง จึงสอบถาม
และเรียนรู้จากเกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จ
"กลับถึงบ้าน รุ่งขึ้นผมตัดสินใจควักเงินเก็บที่มีอยู่ราว 3 หมื่นบาท
สร้างโรงเรือนเลย จากนั้นไปหาซื้อเชื้อเห็ดมาเพาะ
ใส่ปุ๋ยยูเรียเต็มที่ ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่ไม่รู้พลาดตรงไหน
ผลคือล้มเหลวไม่เป็นท่า เห็ดไม่เกิดเลย ขาดทุนยับ" ชัยยา
เล่าถึงความล้มเหลวครั้งแรก เมื่อปี 2548
เมื่อเงินเก็บไม่เหลือหรอ ด้วยไม่อยากเป็นหนี้ใคร ชัยยาจึงหา
ทางออกด้วยการตระเวนรับจ้างทาสีบ้านอยู่ราวปีเศษ
เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว และเพื่อเป้าหมายในการเพาะ
เห็ดฟางต่อ จึงกันเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นทุน ต่อเมื่อกลับบ้าน
จึงหุ้นกับน้องชายสานต่ออาชีพเพาะเห็ดฟางอีกครั้ง
"ครั้งนี้ลงทุนเพียง 3,000 บาท เพราะโรงเรือนมีอยู่แล้ว ออกหา
ข้อมูล
ลงพื้นที่ไปดูการปลูกเห็ดฟางจริงในหลายพื้นที่ หลายแห่ง
ปิดบังข้อมูล บอกไม่หมด จึงต้องหาประสบการณ์ด้วยตนเอง และ
จึงรู้ว่าครั้งแรกที่ล้มเหลวนั้นเพราะใส่ปุ๋ยยูเรียมากไป" ชัยยา เล่า ซึ่ง
นั่นทำให้เขาต้องหันมาเอาใจใส่เรื่องของปุ๋ย ตลอดจนรายละเอียด
อาทิ อุณหภูมิการอบ การให้ความร้อนการฆ่าเชื้อ การให้น้ำที่
อุณหภูมิพอเหมาะ เป็นต้น
เมื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ ครั้งนี้ทำให้เขาประสบผลสำเร็จ จากโรง
เรือนเดียวใช้เวลาเดือนเศษทำกำไรได้ 3,000-4,000 บาท นั่น
ทำให้ชัยยาขยายโรงเรือนจาก 1 หลัง เพิ่มเป็น 20 หลัง
ขนาด 4x6 เมตรในพื้นที่ 2 ไร่ เมื่อปี 2550
คราวนี้เหลือเงินหลังหักค่าใช้จ่ายถึงเดือนละ 3-4 หมื่นบาท
ส่วนเชื้อเห็ดฟางที่นำมาเพาะนั้น จะมีผู้มาส่งให้จากจ.พระนครศรีอยุธยา
สระบุรี ลำปาง ส่วนตลาดจะมีผู้มาซื้อถึงบ้าน
ราคาขึ้นอยู่กับผลผลิตมากน้อยในแต่ฤดูกาล
แต่ราคาส่งต้องไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 50 บาท ไม่เช่นนั้นขาดทุน
กว่า 3 ปีแล้วที่ชัยยายึดอาชีพเพาะเห็ดฟาง ถึงวันนี้นอกจากมีราย
ได้เดือนละ 3-4 หมื่นบาทแล้ว เขายังเป็นผู้ประสานให้แก่เกษตรกร
ที่ต้องการเพาะเห็ดฟาง ทั้งเชื้อเห็ด ปุ๋ย ทุกวันนี้สภาพชีวิตดีขึ้น มี
ทั้งบ้าน รถยนต์ สำหรับคนบ้านนอกก็มีความสุขแล้ว
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.komchadluek.net/2009/02/26/x_agi_b001_339079.php?news_id=339079
http://www.komchadluek.net/2009/02/26/x_agi_b001_339079.php?news_id=339079
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเพาะเห็ดฟางขายรายได้ดี เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัวนายสัมพันธ์
น่าเยี่ยม ตกเดือนละ ไม่ต่ำ 30,000- 50,000 บาท
ส่งขายให้กับแม้ค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองกระบี่และร้านอาหาร พร้อมรับบทบาทวิทยากรถ่ายทอดความรู้สู่ชาวบ้านตอบแทนสังคม
จากชีวิตที่เคยทำการเกษตรมาโดยตลอดเวลา โดยยึดอาชีพการทำสวนยางพารา
ซึ่งมีอยู่จำนวน 50 ไร่เศษ ซึ่งทำรายได้ให้กับครอบครัวของนายสัมพันธ์
น่าเยี่ยม เป็นกอบเป็นกำเนื่องจากราคายางพาราอยู่ในช่วงที่มีราคาสูง ถึงแม้ในบางครั้งจะมีการปรับเปลี่ยนราคาบ้างก็ไม่มีผลกระทบกับครอบครัวแต่อย่างใด
แต่สิ่งหนึ่งที่นายสัมพันธ์คิดอยู่ตลอดเวลาคือการหารายได้เพิ่มเติมเข้าครอบครัว โดยที่คนในครับครอบสี่ชีวิตสามารถที่ช่วยเหลือกันได้
การเพาะเห็ดฟางเป็นสิ่งที่ครอบครัวของนายสัมพันธ์ ให้ความสนใจที่ทำเป็นอาชีพเสริม ความจริงแล้วการเพาะเห็ดฟางของครอบครัวนายสัมพันธ์
น่าเยี่ยม นั้นได้เพาะเห็ดฟางเพื่อใช้บริโภคภายในบ้าน ไม่ได้ส่งขายแต่อย่างใด โดยเริ่มทำมาตั้งแต่ปี
2523 แต่เริ่มมาทำอย่างจริงจังและมีการส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่
รวมทั้งการส่งขายตามร้านอาหารในปี 2535 เริ่มมีการก่อสร้างโรงเรือนเพาะเห็ดฟาง
เตาอบสำหรับอบก้อนเพาะเชื้อ โรงเก็บวัตถุดิบบนพื้นที่บริเวณบ้านเนื้อที่ประมาณ 2
ไร่เศษ ใช้เงินลงทุนจากกระเป๋าตัวเองทั้งหมด โดยไม่ต้องพึ่งพาภาครัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แต่อย่างใด เพราะมันไม่ใช่การพึ่งตนเองเหมือนที่ครอบครัวของนายสัมพันธ์ตั้งใจเอาไว้
การเพาะเห็ดฟางของนายสัมพันธ์ ใช้วัสดุในท้องถิ่นเป็นหลักเช่นขี้เลื้อย
จากโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราจาก ซึ่งซื้อมาตันละ 800 บาท
มาผสมส่วนประกอบต่างๆที่เป็นสูตรเฉพาะของนายสัมพันธ์ ได้แก่ ขี้เลื้อย 300 กิโลกรัม, รำ 15 กิโลกรัม,
ปูนขาว 3 กิโลกรัม ,ดีเกลือ
06 ขีด,ยิปซัม 1.5 กิโลกรัม ,ซีโกร 300 ซีซี
คลุกเคล้าให้เข้ากัน รสน้ำให้เกาะตัวพอประมาณห้ามเปียก
บรรจุใส่ถุงที่เรียกว่าก้อนเพาะเชื้อ น้ำหนัก 89 ขีด
ขนาดกว้างของก้อนเพาะเชื้อ 6x10 นำก้อนเพราะเชื้อใส่ตู้อบ
ใช้อุณหภูมิ 90 องศาเชลเชียส ใช้เวลาในการอบประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อทำการฆ่าเชื้อ เมื่อครบ 4 ชั่วโมงแล้วนำออกมาจากตู้อบทิ้งไว้ให้อุณหภูมิลดลง
แล้วหยดหัวเชื้อเห็ดฟาง แล้วนำก้อนเพาะเชื้อไปตั้งบนชั้นภายในโรงเรือนเพาะเห็ดฟาง
ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตออกขายได้
มีทั้งนางฟ้าครีม,อังการี,และนางฟ้าภูฐาดำ
ในราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 50 บาท
ให้กับพ่อค้าแม้ค้าในตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ และร้านอาหารในตัวเมืองกระบี่
โดยสามารถเก็บเห็ดฟางขายได้วันละไม่ต่ำกว่า 200-300 กิโลกรัม
ทำให้มีรายได้เสริมจากการเพราะเห็ดฟางวันละ 10,000 – 15,000
บาท
นอกจากนั้นครอบครัวนายสัมพันธ์ ยังทำการผลิตก้อนเพาะเชื้อขายในราคาก้อนละ
10 บาทให้กับชาวบ้านผู้ที่สนใจในพื้นที่ใกล้เคียงนำไปเพาะเห็ดฟางขายเป็นอาชีพเสริมเลี้ยงครอบครัว
ปัจจุบันครอบครัวนายสัมพันธ์ น่าเยี่ยมมีรายได้เสริมจาการเพราะเห็ดฟางขายรวมกับขายก้อนเพาะเชื้อเดือนละไม่ต่ำกว่า
30,000- 50,000 บาท
นายสัมพันธ์ น่าเยี่ยม อายุ 54 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 83 ม.3 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่
เล่าว่า คนเราเมื่อเกิดมาแล้วมีครอบครัวต้องเลี้ยงดูครอบครัวเป็นสัจจะธรรมของมนุษย์
การทำมาหากินการพึ่งตัวเองเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่ายุคสมัยใดก็ตาม ผมเป็นคนที่ไม่เคยดูถูกชีวิตหรืออาชีพที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน
การกรีดยางพาราเป็นอาชีพที่สุจริต ถึงแม้จะไม่มีหน้ามีตาในสังคมก็ตาม ผมมีรายได้จากการกรีดยางพาราเป็นหลักอยู่แล้ว
ถึงผมจะไม่ทำอะไรครอบครัวของผมก็อยู่ได้โดยไม่ลำบาก
แต่การที่เรามองหารายได้เสริมให้กับครอบครัวเป็นเรื่องที่ผมมองแล้ว เป็นสิ่งที่มีคุณค่าในฐานะที่เกิดเกิดมาเป็นมนุษย์ที่จะต้องพัฒนาตนเองพัฒนาครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
การเพาะเห็ดฟางเป็นอาชีพเสริมที่ผลเลือกและก็ทำรายได้ให้กับครอบครัวของผมได้อย่างคุ้มค่า
ปัจจุบันผมมีรายได้จาการกับการเก็บเห็ดฟางขายทุกวัน ผมมีรายได้ตกวันละไม่ตำกว่า
10,000 บาท ผมมีความสุขครับที่ครอบครัวผมมีรายได้เพิ่มขึ้น
จากการพึงตนเอง
นายสัมพันธ์ เล่าให้ฝังอีกว่า ปัจจุบันผมได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ม.3 ต.ไสไทย ทำให้ผมมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
ผมจึงนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการเพาะเห็ดฟางมาอบรมรมให้กับชาวบ้านที่สนใจ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้
มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือไม่ก็เพื่อไว้บริโภคในครอบครัว ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่ความรู้และประสบการของผมสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้
สังคมปัจจุบันคือการให้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ให้เพื่อทำเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
คือการให้ที่ถูกต้อง นายสัมพันธ์ น่าเยี่ยมกล่าวทิ้งท้าย
แหล่งที่มา